21.01.202507:36 Forex Analysis & Reviews: วิธีซื้อขายคู่สกุลเงิน EUR/USD ในวันที่ 21 มกราคม? เคล็ดลับง่ายๆ และการวิเคราะห์การซื้อขายสำหรับผู้เริ่มต้น

การวิเคราะห์การซื้อขายในวันจันทร์

กราฟ 1 ชั่วโมง ของ EUR/USD

ในวันจันทร์ คู่สกุลเงิน EUR/USD แสดงการเพิ่มขึ้นอย่างคมชัดและแข็งแกร่ง ยูโรเริ่มแข็งค่าขึ้นทันทีหลังจากตลาดเปิด ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นของทั้งวันและสัปดาห์ การเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ว่าการลดลงของดอลลาร์ไม่ได้ผูกกับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เฉพาะเจาะจงใดๆ เหตุการณ์ที่โดดเด่นเพียงเรื่องเดียวในวันนั้นคือพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ Donald Trump ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ การลดลงของดอลลาร์สามารถถูกเชื่อมโยงได้ตามธรรมชาติกับเหตุการณ์นี้ แม้ว่า Trump จะกล่าวถ้อยแถลงที่สำคัญหลายข้อ แต่ควรทราบว่าการลดลงของดอลลาร์เริ่มขึ้นก่อนการแถลงหรือพิธีสาบานตนของเขา พฤติกรรมนี้สะท้อนอารมณ์ของตลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เราเชื่อว่าควรหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นระเบียบดั่งนี้ แม้ว่าจะมีสัญญาณการซื้อขายที่ดีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อวาน แต่การซื้อขายในระหว่างที่มีเหตุการณ์ใหญ่โตมักจะเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่เสถียร การเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน และความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้น

แผนภูมิ 5M ของ EUR/USD

ในกรอบเวลาห้านาทีวันจันทร์นี้มีสัญญาณที่แข็งแกร่งจำนวนมาก ราคาดีดตัวจากช่วง 1.0269-1.0277 ในช่วงกลางคืน และต่อมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลอดครึ่งวันจนถึงระดับ 1.0433 ในระหว่างช่วงเวลาของตลาดจากสหรัฐ สัญญาณเหล่านี้อาจถูกใช้งานในช่วงกลางคืนหรือในช่วงตลาดยุโรป สำหรับนักเทรดมีโอกาสที่จะเปิดสถานะและหากำไรจากการดีดกลับที่ระดับ 1.0433 อีกครั้งที่ระดับ 1.0359 และอีกสองครั้งที่ 1.0433 และอีกครั้งที่ 1.0359

กลยุทธ์การเทรดสำหรับวันอังคาร:

ในกรอบเวลารายชั่วโมง คู่สกุลเงิน EUR/USD ยังคงเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง เราเชื่อว่าการลดลงของยูโรมีท่าว่าจะยังคงต่อเนื่องในระยะกลาง และระดับเสมอกัน (parity) ก็อยู่ไม่ไกล อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ายูโรน่าจะยังคงลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพพื้นฐานและสภาพแมโครที่ยังคงสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในขณะนี้ การแก้ไข (Correction) กำลังเกิดขึ้น และสนับสนุนด้วยเส้นแนวโน้ม (Trendline) การตัดผ่านเส้นแนวโน้มนี้จะแสดงถึงการสิ้นสุดของการแก้ไข

การเคลื่อนไหวในวันอังคารอาจจะอ่อนแอกว่าวันจันทร์และดอลลาร์อาจเริ่มกลับคืนค่าที่สูญเสียไป อย่างไรก็ตามตอนนี้เรามีเส้นแนวโน้มเป็นตัวชี้นำ

ในกรอบเวลาห้านาที พิจารณาระดับต่อไปนี้: 1.0156, 1.0221, 1.0269-1.0277, 1.0334-1.0359, 1.0433-1.0451, 1.0526, 1.0596, 1.0678, 1.0726-1.0733, 1.0797-1.0804, และ 1.0845-1.0851 ในวันอังคาร ตัวชี้วัด ZEW จะถูกประกาศในเขตยูโรโซน ในขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐไม่มีรายการใด ๆ เป็นผลให้ความผันผวนอาจลดลงอย่างมากและค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะเติบโต

กฎพื้นฐานของระบบการเทรด:

1. ความแข็งแรงของสัญญาณ: ยิ่งใช้เวลาน้อยในการสร้างสัญญาณ (การเด้งกลับหรือการทะลุ) สัญญาณจะยิ่งแข็งแรง
2. สัญญาณปลอม: หากมีการซื้อขายใกล้ระดับหนึ่งซ้ำหลายๆ ครั้งและส่งผลให้เกิดสัญญาณปลอม ให้เพิกเฉยต่อสัญญาณจากระดับนั้นๆ
3. ตลาดแบน: ในสภาวะที่ตลาดแบน คู่สกุลเงินอาจสร้างสัญญาณปลอมจำนวนมากหรือไม่มีเลย ควรหยุดการซื้อขายเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณการตลาดบอกว่าเป็นตลาดแบน
4. เวลาในการซื้อขาย: เปิดการซื้อขายระหว่างการเริ่มต้นของตลาดยุโรปจนถึงกลางตลาดสหรัฐ และปิดการซื้อขายทั้งหมดด้วยตนเอง
5. สัญญาณ MACD: ในกรอบเวลารายชั่วโมง ให้ทำการซื้อขายสัญญาณ MACD เฉพาะในช่วงที่มีความผันผวนดีและมีแนวโน้มชัดเจนด้วยการยืนยันจากเส้นแนวโน้มหรือช่องแนวโน้ม
6. ระดับใกล้กัน: หากสองระดับอยู่ใกล้กันเกินไป (ห่างกัน 5–20 จุด) ให้พิจารณาว่าเป็นเขตซัพพอร์ตหรือเรซิสแทนซ์
7. จุดหยุดขาดทุน: ตั้งค่า Stop Loss ไว้ที่จุดคุ้มทุนหลังจากราคาขยับไปในทิศทางที่ต้องการ 15 จุด

องค์ประกอบที่สำคัญบนแผนภูมิ:

ระดับซัพพอร์ตและเรซิสแทนซ์: ระดับเป้าหมายสำหรับการเปิดหรือปิดสถานะและยังสามารถใช้เป็นจุดวางคำสั่ง Take Profit

เส้นสีแดง: ช่องหรือเส้นแนวโน้มที่บ่งบอกถึงแนวโน้มที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและทิศทางที่ควรซื้อขาย

ตัวบ่งชี้ MACD (14,22,3): ฮิสโตแกรมและเส้นสัญญาณที่ใช้เป็นแหล่งสัญญาณการซื้อขายเพิ่มเติม

เหตุการณ์และรายงานที่สำคัญ: พบได้ในปฏิทินเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการเคลื่อนไหวของราคา ระมัดระวังหรือออกจากตลาดในช่วงเวลาที่มีการปล่อยออกมาเพื่อลดความเสี่ยงจากการผันผวนที่รุนแรง

ผู้เริ่มต้นใช้งาน Forex ควรจดจำว่าไม่ใช่ทุกการซื้อขายจะได้กำไร การพัฒนากลยุทธ์ที่ชัดเจนและการจัดการเงินอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในการเทรดระยะยาว