คำว่า “ฟิวเจอร์ส” เป็นคำที่อธิบายในตัวมันเอง โดยสัญญาเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นเอง
ดังนั้นแล้ว อะไรคือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มันก็คือสัญญาที่จำเป็นจะมีการส่งมอบสินทรัพย์จำเพาะในราคาที่ตกลงกันไว้ในอนาคต ทางผู้ขายของสัญญา โดยผู้ซื้อของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจำเป็นต้องทำการซื้อสินทรัพย์ ในวันที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ในขณะที่ผู้ขายเองก็จำเป็นต้องทำการขายไป ดังนั้นแล้วภาระผูกพันทั้งสองจะมีผลบังคับใช้กับปริมาณตามมาตรฐานของสินทรัพย์และจะต้องปฏิบัติตามในอนาคตด้วยราคาที่ตกลงกัน ณ ขณะที่ซื้อ
หรืออาจเรียกได้ว่าสัญญาซื้อขายล่วงหน้าควรจะสิ้นสุดลงในวันที่ระบุไว้ในสัญญา โดยสัญญาซื้อขายของการส่งมอบสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็มีอยู่ทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ใช้เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับ:
ประเภทของฟิวเจอร์ส
มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอยู่ 2 ประเภท:
ประเภทแรกนี้มีการใช้ในภาคเศรษฐกิจจริง ตัวอย่างเช่นชาวนาทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อที่จะขายสินค้าตนเองในราคาที่ต้องการจากสัญญา ทางผู้ซื้อก้จำเป็นต้องลงลงยินยอมในสัญญาเพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถซื้อสินค้าได้ ดังนั้นแล้วทั้งสองฝากจะมีข้อประกันตนเองด้วยภาระผูกผันทางตลาดต่อกัน
ประเภทที่สองของสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้นมักจะใช้สำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการผลกำไรจากการที่ราคามีการผกผัน แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะซื้อสินทรัพย์นั้นไป ตัวอย่างเช่น ถ้าหากนักลงทุนทำการซื้อสัญญาซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าเป็นมูลค่า 48เหรียญต่อบาร์เรล และราคาก็เพิ่มขึ้นมาถึง 56เหรียญต่อบาร์เรล ดังนั้นแปลว่าพวกเขาทำกำไรได้ไป 8 เหรียญ ในทางตรงกันข้ามพวกเขาเองก็สามารถเสียเงินไป 8 เหรียญได้หากราคาปรับตัวลงมา 40 เหรียญ แสดงว่าเทรดเดอร์ไม่จำเป็นจะต้องเก็บหรือส่งมอบสินทรัพย์ในเวลาที่พวกเขาซื้อมัน แต่พวกเขาสามารถทำการระบุลงในสัญญาได้แค่เพียงการคลิกไม่กี่ครั้ง
จะไปหาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้จากไหน
สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีการเทรดในตลาดแลกเปลี่ยนฟิวเจอร์ส แล้วนี้เป็นตลาดสินค้าและฟิวเจอร์สสำหรับการเทรดที่ได้รับความนิยม:
มองลึกในแง่การเทรดฟิวเจอร์ส
การเทรดฟิวเจอร์สก็เหมือนกับการเทรดบน Forexหลักการของเทคนิคและการวิเคราะห์เชิงพื้นฐานก็สามารถนำมาใช้กับตลาดฟิวเจอร์สได้เช่นกัน เพราะว่าเทรดเดอร์ใช้ตัวบ่งชี้, แผนผัง และสถานะ ซึ่งโดยรวมแล้วก็อยู่ในแนวเดียวกับการทำงานบนForex นอกจากนั้นอุปกรณ์เหล่านี้แรกเดิมนำมาใช้สำหรับการเทรดในตลาดฟิวเจอร์สอยู่แล้ว ซึ่งเคยปรากฏอยู่ในช่วงแรกของการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศ แต่การเทรดฟิวเจอร์มีข้อแตกต่างหลักบางอย่างอยู่
โดยตัวอัษรเหล่านี้เป็นตัวอักษรพิเศษที่แสดงให้เห็นถึงเดือนของการส่งมอบ:
ทาง Forex เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศที่มีค่าเงินอ้างอิงจากทางธนาคารแล้วผู้ติดต่อ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมราคาสามารถแตกต่่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ แต่ในเวลาเดียวกัน การเทรดฟิวเจอร์สก็ดำเนินการโดยตลาดแลกเปลี่ยน ดังนั้นราคาก็จะถูกกำหนด และไม่สามารถเปลี่ยนไปได้เนื่องจากมันถูกกำหนดมาด้วยผู้ซื้อและผู้ขายอย่างจำเพาะเจาะจง ซึ่งค่าเงินอ้างอิงแต่ละค่ามีมูลค่าและปริมาณของมัน ในเว็บไซต์ของการแลกเปลี่ยนได้มีการระบุค่าเงินอ้างอิงอย่างชัดเจรสำหรับการเทรดก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมโบรกเกอร์ของการเทรดฟอวเจอร์มีค่าเงินอ้างอิงเดียวกัน
ปริมาณของสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้นเป็นไปตามมาตรฐาน โดยการแลกเปลี่ยนได้กำหนดคุณภาพและปริมาณของสินทรัพย์ไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น ฟิวเจอร์สของท้องหมู (PB) จะเริ่มการส่งมอบด้วยปริมาณ 40K ปอนด์ หรือฟิวเจอร์สทองคำก็มีการส่งมอบในปริมาณถึง 100 ทรอยออนซ์ พร้อมกับคุณภาพความวิจิตรของ 995 หรือสูงกว่า ส่วนฟิวเจอร์สของน้ำมันมีการส่งมอบในปริมาณ 1K บาร์เรลน้ำมันดิบ โดยค่าอ้างอิงของฟิวเจอร์สนั้นใช้กันทั่วโลก
วิธีการซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
การซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้นคุณจำเป็นต้องทำการลงทะเบียนในบัยชีเทรด กับทางโบรกเกอร์และทำการฝากเงินในจำนวนที่จะเพียงพอต่อการซื้อ โดยเงินจำนวนนี้จะเป็นหลักประกันต่อการเสื่อมของราคาสัญญานั้นเอง
ขึ้นอยู่ว่าคุณทำการแลกเปลี่ยนด้วยอะไรโดยไม่เกี่ยวกับสินทรัพย์นั้น ดังนั้นจำนวนเงินฝากควรจะอยู่ที่ 2-10% ของมูลค่าสินทรัพย์ โดยจำนวนเงินนี้จะเป็นเงินประกันขั้นต้น มันจะถูกคำนวณรวมกับความช่วยเหลือของระบบ SPAN ที่มีพื้นฐานมาจากการประเมินของการเปลี่ยนแปลงในด้านราคาของสินทรัพย์ชนิดนั้นๆ
นอกเหนือจากเงินประกันขั้นต้นแล้ว มันยังมีเงินประกันรักษาสภาพ ที่เป็นจำนวนเงินที่จำเป็นต่อการรักษาการเปิดการเทรดเอาไว้ ตัวอย่างเช่นหากนักลงทุนต้องการจะซื้อหรือขายฟิวเจอร์ส สำหรับผู้ผลิตน้ำมันเบรนท์ พวกเขาจำเป็นต้องมีเงินประกันขั้นต้นในมูลค่าเท่ากับ 4,000 เหรียญ และมีเงินประกันรักษาสภาพอยู่ที่ 2,000 เหรียญ
หลังจากที่ได้ปิดการเทรดไปแล้วในวันหมดอายุ ระบบระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ประมวลคำสั่งจะทำการคำนวณผลกำไรและผลเสียโดยอัตโนมัติ
วันหมดอายุของฟิวเจอร์สคืออะไร
วันหมดอายุเป็นวันที่เมื่อสัญญาเริ่มมีการบังคับใช้ทันที โดยในวันนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะเป็นโมฆะ
วันหมดอายุจะต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับตัวสินทรัพย์ ดังนั้นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสำหรับดัชนีหุ้น S&P 500 จะหมดอายุ4ครั้งภายในปีนี้ ในเดือนมีนาคม, เมษายน, กันยายน และธันวาคม
สำหรับวันหมดอายุนัั้นเป็นเรื่องง่ายต่อการติดตามเนื่องจากมันได้แสดงให้เห็นในข้อมูลส่วนประกอบของฟิวเจอร์ส
เมื่อใกล้เข้าถึงวันหมดอายุแล้ว เทรดเดอร์หลายคนและนักลงทุนจะทำการปิดการเทรดแล้วรอให้มีการเทรดรอบใหม่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเนื่องจากตลาดสามารถจัดการได้และการเคลื่อนไหวของราคาเองก็ไม่สามารถคาดเดาได้ในช่วงการหมดอายุ แต่เทรดเดอร์บางคนก็ได้คิดในทุกช่วงจังหวะตั้งแต่การเข้ามาในตลาดแล้วกำหนดแนวโน้มของการเทรด
วิธีการใช้งานฟิวเจอร์สเพื่อการป้องกันความเสี่ยงต่อสถานะ
เป็นบ่อยครั้งที่นักลงทุนใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อทำการป้องกันความเสี่ยงต่อสถานะเนื่องจากมันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันพวกเขาจากความผกผันของราคา แต่ถึงอย่างไรก็ตามวิธีการป้องกันนี้ก็ได้ลดความเสี่ยงและก็สามารถนำไปสู่การลดผลกำไรด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการป้องกันความเสี่ยงอยู่สองประเภท:
การป้องกันความเสี่ยงด้วยการซื้อ (สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า long hedge) ที่ได้ป้องกันเทรดเดอร์ต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์นั้นที่อาจเป็นไปได้
การป้องกันความเสี่ยงด้วยการขาย(สามารถเรียกได้อีกอย่างว่า short hedge) หมายความว่าเทรดเดอร์จะทำการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อที่จะลดความเสี่ยงของการลดลงของราคาสินทรัพย์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
วิธีการทำเงินผ่านการเทรดฟิวเจอร์ส
ไม่มีอะไรใหม่สำหรับการทำกำไรจากการเทรดฟิวเจอร์ เพียงแต่คุณทำการซื้อสัญญาในราคาที่ค่ำและขายออกไปในราคาที่สูง แล้วก็ก็สามารถซื้อสัญญาใหม่ได้อีกครั้ง เมื่อราคาลดลงแล้วหลังจากที่ขายมันไป
นี้เป็นวิธีที่รู้จักกันเป็นอย่างดีที่ใช้เพื่อทำผลกำไรจากการเทรดด้วยวิธีการอื่นเช่น หุ้น,ตราสารหนี้, สกุลเงิน และออฟชั่น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ใกล้เข้าถึงวันหมดอายุแล้วจะเป็นช่วงที่ทำผลกำไรที่มากที่สุด โดยพวกมันจะเป็นที่ดึงดูดนักลงทุนเนื่องจากความคล่องตัวของพวกเขามีสูง ราคาสำหรับฟิวเจอร์สชนิดนี้ใกล้กับความเป็นจริงและมีโอกาสที่จะผันผวนไปมาได้น้อย
การเทรดด้วยฟิวเจอร์สดูเหมือนว่าจะมีกระบวนการที่ซับซ่อนในตอนแรก แต่ที่จริงแล้วคุณจะพบว่ามันง่ายมากหากคุณได้ทำการฝึกฝนและลองสำรวจข้อมูลเฉพาะของตลาด ดังนั้นการเทรดจำเป็นต้องใช้ความรู้อย่างมาก การอ่านหนังสือ, การลงฝึกในคอร์สอบรมและเข้าร่วมการสัมมนาทางเว็บ ลองดูแล้วคุณจะโชคดี
